วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

โอทูสู่ปีที่ 9 ผลิตภัณฑ์ใหม่ โอทูซุปเปอร์พรีเมี่ยม


สู่ปีที่ 9 ‘โอทู’เนรมิตสำนักงานใหญ่
ขยายโรงงานสู่เมืองกรุงมูลค่าร่วม 200 ล้าน.


ครบ 8 ปี เข้าสู่ปีที่ 9 บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บุคคลที่ร่วมพูดคุยกับเราในวันนี้ นั่นคือ บอสใหญ่ ฉัตรชัย ประเสริฐสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ที่จะถ่ายทอดยุทธศาสตร์ผ่านปลายปากกาเล่มนี้

ก่อนอื่นขอย้อนอดีตกลับไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เมื่อครั้งเกิดน้ำท่วมใหญ่ หากเทียบกับปีนี้ที่มีน้ำท่วมเหมือนกัน ผมจำได้ว่า ช่วงนี้ของปีที่แล้ว จ.อยุธยา อ.บางปะหัน น้ำได้ท่วมหนักไปแล้ว ปัจจุบันไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ ถึงแม้จะท่วมก็มีบางพื้นที่ที่เป็นทางผ่านของน้ำ หรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้ริมแม่น้ำ แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับ โอทู เพราะน้ำที่ท่วมไม่ได้กินบริเวณกว้างอย่างเช่นที่ผ่าน ๆ มา

ดังนั้น ก้าวสู่ปีที่ 9 โอทู ก็ถือเป็นการบ้านที่ไม่หนักเหมือนปีที่ผ่านมา และก็ได้มีการเปลี่ยนกล่องสินค้าใหม่ ยังคงเน้นย้ำความเป็นออแกนิค เพราะได้เปิดตัวสินค้าใหม่ โอทู ซุปเปอร์ พรีเมี่ยม ออแกนิค โดย ดร.สยามรัฐ ป้านภูมิ นักวิจัยเป็นผู้ค้นคิดสูตรใหม่ขึ้นมา พร้อมเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับผู้นำที่มาร่วมงานงานฉลองครบรอบและจัดสัมมนาประมาณ 250 คน เพื่อเอาสินค้าตัวนี้ออกไปกระจายภายใต้เครือข่ายตัวเอง

ก้าวสู่ปีที่ 9 เรามีตัวแทนศูนย์จำหน่าย 250 ศูนย์ สิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เพราะเรามีกลยุทธ์ที่มีการปรับเปลี่ยน ทั้งในส่วนของการตลาดและสมาชิก คือจะมุ่งเน้นคนที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น เมื่อเขาประสบความสำเร็จมาก ยอดขายก็จะตามมามากเช่นกัน ฉะนั้น การดำเนินธุรกิจภายใต้เป้าหมายใหม่ จึงมุ่งสร้างให้คนประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม และจะไม่มุ่งเน้นที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว
ซึ่งขั้นตอนแรกของการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นั่นคือ การแต่งตั้งผู้ร่วมบริหารขึ้นมา 11 คนด้วยกัน โดยให้พวกเขาก้าวขึ้นมามีบทบาท สืบเนื่องจากผู้นำเหล่านี้คลุกคลีอยู่กับเครือข่ายที่มีสายงานจำนวนมาก ก็ย่อมรับรู้ปัญหาเครือข่ายของตนเองเป็นอย่างดี ฉะนั้น จึงต้องใช้หน้าที่บุคลากรคุณภาพกลุ่มนี้ไปบริหารคน เพื่อต้องการความสำเร็จให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยกลุ่มผู้นำทั้ง 11 คน สามารถบริหารให้ครอบคลุมและดูแลไปทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี
อีกโจทย์หนึ่งที่มีการลงมติร่วมกันในที่ประชุม นั่นก็คือ ฝ่ายตลาดหรือฝ่ายบริหารร่วม ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจกับ โอทู อยากให้เขามองว่า เรามีความพร้อม ณ ปัจจุบันอาคารสำนักงานใหญ่ยังมีขนาดเล็ก และที่สำคัญยังมีที่จอดรถไม่เพียงพอ จึงอยากจะเพิ่มความสะดวกสบาย ตรงนี้เราก็มีนโยบายการจัดการให้เร็วที่สุด
ซึ่งก็ต้องบอกว่ามีแปลนสร้างสำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อย ส่วนโรงงานผลิตก็ยังตั้งอยู่ที่เชียงราย ก็ได้หารือกับ ดร.สยามรัฐ ว่าเราจะย้ายฐานการผลิตมาที่กรุงเทพมหานครด้วยได้หรือไม่ เพราะเรามีพื้นที่ 3 ไร่ สามารถสร้างโรงงานการผลิต และสำนักงานในที่เดียวกันที่กรุงเทพมหานครแห่งนี้ โดยวางงบประมาณก่อสร้างในขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 150 - 200 ล้านบาท 

เมื่อแผนการตลาดถูกพลิกมิติใหม่ สินค้าก็ถูกพลิกมิติใหม่ตามที่กล่าวมาข้างต้น เพราะผลิตภัณฑ์ โอทู ซุปเปอร์ พรีเมี่ยม ออแกนิค ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา วิวัฒนาการของตัวสินค้าก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ก็จะคิดค้นและพัฒนาไปเรื่อย ๆ รวมถึงสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ ดร.สยามรัฐ ในฐานะนักวิจัยก็จะใช้เวลาว่างในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อจะดึงสมาชิกให้เข้ามาทำ โอทู ได้หลากหลายมากขึ้น
และที่สำคัญสินค้าบางตัวจะมีการปรับลงมาเป็นไซด์มินิ จากไซด์ที่มีขนาดใหญ่ เหตุผลก็เพราะว่า เกษตรกรบางรายมีที่ดินแปลงเล็ก - ใหญ่ ไม่เท่ากัน การปรับไซด์ตรงนี้จึงเหมาะสำหรับคนมีที่แปลงเล็กขวดเดียวใช้ได้ประมาณ 25 ไร่/ครั้ง ส่วนขวดใหญ่ก็ใช้ได้ประมาณ 50ไร่/ครั้ง หากมีที่ดินแปลงเล็ก ก็เท่ากับเป็นการสนองความต้องการของเกษตรกร บางคนจากที่เคยซื้อขวดใหญ่เหลือใช้ไม่หมด ฉะนั้น เราจึงมีขวดเล็กเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของ โอทู แต่ตรงนี้ก็มีการปรับใช้มานานแล้ว ผลตอบรับก็ดีเกินคาด เพราะเกษตรกรสามารถเซฟต้นทุนได้ดี

ส่วนศูนย์บริการ โอทู ก็ยังเปิดรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้ามีคนสนใจก็สามารถติดต่อแม่ทีมหรือทางศูนย์จะขึ้นเบอร์โทรผ่านทางสถานี IN TV และ TVD ถ้าใครสนใจก็ติดต่อมาได้เลยทันที ประเด็นสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ทาง โอทู ให้ความสำคัญ นั่นคือ ระบบการฝึกอบรม ที่มีการปรับระบบใหม่ให้เข้มข้น เพื่อสอดรับกับยุทธศาสตร์ใหม่

ด้วยการวางระบบอบรม OPP และระบบ OPF ถ้าเป็นระบบ OPP ก็จะมุ่งเน้นการขาย ส่วนระบบการอบรมแบบ OPF จะมุ่งเน้นด้านการขยายงานเครือข่าย เพื่อเติมเต็มให้คนมีความรู้ เติมประสิทธิภาพลงไปมากขึ้น มุ่งเน้นคุณภาพ เน้นการขยายเครือข่ายที่สามารถสร้างงานสร้างคนให้เก่งได้ บริษัทก็มีระบบที่รองรับแบบพร้อม 100% ซึ่งจำเป็นต้องเน้นให้สมาชิกทำงานเป็นทีม ทำงานอย่างมีคุณภาพ เพราะสินค้า โอทู เป็นสินค้าที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะว่าพืชแต่ละชนิด ดินแต่ละแห่ง

เราจะต้องไปสำรวจก่อนว่า พอใช้สินค้าเราแล้วได้ผลแค่ไหน พืชชนิดไหนต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลดี ถ้าไปแนะนำแบบผิด ๆ ถูก ๆ  หากพืชมีปัญหา ก็จะทำให้เกิดผลลบต่อบริษัทคืนกลับมา นั่นหมายความว่า การอบรมต้องเกิดประโยชน์ สมาชิกต้องอธิบายได้อย่างชัดเจน และเป็นไปตามโฆษณาที่เราพูด คือใช้สินค้าแล้วต้องชัดเจน ช่วยปัญหาชาวไร่ - ชาวนาได้จริง

ซึ่งถ้าแผนงานที่วางไว้ประสบความสำเร็จ โดยใช้ยุทธศาสตร์การขาย + ขยาย เน้นการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพกับคน แต่จะไม่มุ่งเน้นขายของอย่างเดียว เพราะเราต้องรับผิดชอบสินค้าของเราพอสมควร ฉะนั้น การเซ็ท ระบบ OPF ก็เหมือนกับเราสามารถบริหารคน บริหารสายงานของคุณได้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยุทธศาสตร์เก่งคน - เก่งงาน 

สำหรับเป้าหมายที่เคยวางไว้ ก็จะไม่กว้างเหมือนในอดีต นั่นหมายความว่า เราได้ตั้งเป้าหมายของเราแคบลง เหตุผลก็เนื่องจาก โอทู ผู้ที่สำเร็จระดับสูงสุดในตำแหน่ง CDM 1 - 3 ณ ปัจจุบันมีอยู่กว่า 3,000 คน เราก็เอาคนเหล่านี้มาปรุงให้เก่งให้เกิดคุณภาพ ให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม และจะไม่เอายอดขายนำอีกต่อไป แต่เราจะเอาความสำเร็จของสมาชิก ของคนในองค์กรนำ สุดท้ายยอดขายก็จะโตตามเองในที่สุด

ส่วนแผนในการจัดงานเกียรติยศที่จะจัดขึ้นในต้นปีหน้านี้ ก็จะย่อส่วนลงเช่นเดียวกัน โดยจะให้ความสำคัญกับผู้นำที่ก้าวขึ้นตำแหน่ง CDM 1 - 3 เพื่อเป็นการจัดงานเชิดชูเกียรติให้กับนักขายเกียรติยศโดยตรง เป้าหมายของเราจึงแคบลง เพราะเราให้เกียรติผู้นำ โอทู ที่ประสบความสำเร็จ และปีหน้าจะเห็นโฉม โอทู ภายใต้มิติใหม่อย่างแน่นอน บอสใหญ่ ฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้าย

บอร์ดบริหารที่สำคัญอีกคนหนึ่ง ที่เป็นเครื่องจักรกลคนสำคัญที่ขับเคลื่อน โอทู ไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ นั่นคือ บอร์ดบริหาร ภนเอก สะอาดวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร ที่จะมาปูพรมยุทธศาสตร์สู่ปีที่ 9 โอทู น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกมาก ลองมาศึกษายุทธศาสตร์คร่าว ๆ ดังนี้คือ
ยุทธศาสตร์สำคัญของ โอทู ในระบบขายตรง ถูกแบ่งออกเป็น 3 เซ็ทด้วยกัน คือ บริษัท สินค้า และแผนการตลาด บริษัทก็ได้เซ็ทระบบลงตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม ส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่เพิ่มให้กับสมาชิก ตรงนี้ต้องบอกว่าลงตัวแล้ว ซึ่งจริง ๆ เราจะมีการประกาศยุทธศาสตร์อีกครั้งในเดือนมกราคม ปี 2556 เพราะเราวางระบบและยุทธศาสตร์ของเราได้เข้าที่และแน่นปึกเป็นที่สุด

ถึงแม้จะมีติดขัดบ้างในช่วงแรก แต่เมื่อเราปรับเปลี่ยนระบบใหม่ในปี 2556 ก็เท่ากับว่ายุทธศาสตร์ที่มีการปรับในวันนี้ก็จะรันเต็มตัวในปีหน้า ซึ่งทุกอย่างจะลงตัวหมด เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา เราก็มีการเรียนรู้ทุก ๆ อย่าง ตอนนี้เราพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สร้างความพร้อมให้เกิด นั่นก็คือ ตัวสินค้า เพราะระบบจะเดินไปได้สินค้าก็ต้องดีเลิศและเป็นที่ต้องการในท้องตลาดและเกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้สินค้าที่เราทำตลาดมา 4 - 5 ปี ทุกอย่างดีมาก ๆ เราจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีนักวิจัยที่สามารถค้นคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่มีการถอยหลัง มีแต่พัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

ดังนั้น ส่วนตัวบริษัทกับสินค้าก็ต้องเดินคู่กันไป ส่วนเรื่องระบบก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างที่ท่านประธานฯ บอก ทำอย่างไรให้สมาชิก 100 คน สามารถขยายเครือข่ายได้ 1,000 คน นี่คือโจทย์ที่จะก้าวสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง

ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 - 8 ปีที่ผ่านมา เราปูพื้นไว้หมดแล้ว สินค้าเราก็เป็นที่รู้จักกับคนทั่วไป ซึ่งก็ไม่ยากที่จะดึงสมาชิกใหม่เข้ามา เมื่อแบรนด์ถูกสร้างให้ติดตลาดมานานแล้ว ฉะนั้น โจทย์ต่อไปจะสร้างให้ผู้นำจากที่ประสบความสำเร็จ 100 - 200 คน ทำอย่างไรในปี 2556 ขยายไป 1,000 คน สำหรับผู้นำเงินล้าน ซึ่งเราก็จะเริ่มจัดการที่ 100 คนแรกก่อน เพื่อที่จะขยายให้สำเร็จสู่หลัก 1,000 คน ตรงนี้ก็จะเพิ่มยุทธศาสตร์เข้าไปช่วยให้สำเร็จตามเป้าหมาย
สำคัญที่สุด วันนี้ในภาคปฏิบัติผมยังคงทำหน้าที่ลงภาคสนามลงไปคลุกกับรากหญ้า ไปคลุกกับผู้นำท้องถิ่น เพราะผมเป็นคนชอบเรื่องเกษตร ชอบลงพื้นที่ อยากเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยมือ เพราะฟังจากเขาพูดก็เดาไม่ออกว่า มันดีจริงมั้ย เมื่อทดลองใช้กับพืชชนิดนี้ ได้ผลดีรึเปล่า ต้องมีการทดสอบด้วย ถือว่าเป็นการเยี่ยมเยียน ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน ก็จะมีวิธีการใช้แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง อ้อย เมืองกาญจน์ กับอ้อย อุดรธานี มันต่างกัน เพราะพืชมันทนแล้งผิดกัน ข้าว พืช ผลไม้ต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ยุทธศาสตร์จึงถูกปรับเปลี่ยนด้วยการลงพื้นที่เอง เพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างอย่างถูกต้อง

ทุกวันนี้ โอทู จึงไม่มีปัญหาเรื่องสินค้า เพราะเราไม่ใช้ระบบสั่งการ เราบริหารเป็นระบบจากข้างล่างขึ้นบน การทำอย่างนี้ทำให้เรารู้ปัญหา รู้ผู้นำทุกคนว่าจะแก้ไขอย่างไร แต่บางบริษัทอาจเน้นระบบสั่งการอย่างเดียว ก็ทำให้ไม่ค่อยรับทราบปัญหาที่แท้จริงเท่าที่ควร
เมื่อทุกยุทธศาสตร์ถูกกากบาทถูก ถามว่าแล้วยอดขายจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ตอบได้เลยว่า เมื่อเราวางระบบสำเร็จอย่างน้อย ๆ ยอดต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และคงเติบโตคงไม่หนีห่างจากปีที่ผ่านมาเท่าไหร่ หรืออาจจะตกลงสักเล็กน้อย และต่อจากนี้ไปคงทวีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านศูนย์จำหน่าย ปกติผู้นำจะมีศูนย์จำหน่ายเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้จะปรับใหม่ไม่ทำแบบเดิม เพราะเราต้องการขยายศูนย์ไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ ใน 77 จังหวัด จากนี้ต่อไปแต่ละศูนย์ที่เปิดขึ้นจะเป็นเครือของ โอทู และจะต้องเปิดเป็นศูนย์ของบริษัท แผนงานนี้จะรันหลังจากมีการสร้างสำนักงาน โรงงาน เสร็จ ก็จะขยับภาพลักษณ์ศูนย์เป็นแผนต่อมา และจะปรับให้เป็นศูนย์อินเตอร์ด้วย เพื่อจะได้ป้อนคนเข้าระบบ ถามว่าถ้าเรามีศูนย์ทั่วประเทศและทำได้เหมือนบริษัท ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้ยอดขายไม่โต ถามว่าแล้วทำไมถึงกล้าลงทุนขนาดนั้น ก็เพราะตัวสินค้าเราขายได้ เกิดการซื้อซ้ำ แต่ถ้าเล่นสินค้าตามกระแส พอกระแสหดสักแป๊บนึงก็ถึงจุดอิ่มตัว
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ก็จะมีการเติมไลน์ลงไปตลอดเวลา ส่งผลให้ยอดผู้นำที่สำเร็จเพิ่มขึ้นตามมา เพราะเรามีสินค้าหลักที่ไม่ใช่สินค้ากระแสนำร่อง ฉะนั้น 8 ปีจึงมีความหมายกับเราทุกคน เพราะมันพัฒนาจาก 1 เหมือนกันหมดทุกคน นี่คือความมั่นคงของเรา ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน  สินค้า ศูนย์ฝึกอบรม นั่นคือ การเติมเต็มชีวิตของผู้นำและสมาชิกให้มีความมั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
หากถามว่า ณ นาทีนี้ การเติบโตของ โอทู กระจายไปทั่วประเทศหรือยัง ต้องบอกว่า ยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบางพื้นที่อย่างภาคใต้ยังไม่ได้เปิดฐาน ยังคงกระจุกอยู่ที่เดียว ทั้ง ๆ ที่ภาคใต้มีพืชเศรษฐกิจเยอะ ก็จะต้องเปิดพื้นที่บุกกันต่อไป เพราะ 8 ปี ที่ดำเนินการมา เรายังเดินไปไม่ทั่วประเทศ แม้ว่ายอดขายจะแตะเกิน 1,000 ล้านบาทแล้วก็ตาม ก็ยังคงมีพื้นที่ที่ยังไม่เข้าไปเจาะอีกมากมายหลายแห่ง ภายใต้สินค้าหลัก 2 ตัว นั่นคือ สินค้าเกษตร และสินค้าคนเมืองอย่าง F2 ก็ยังไม่มีแผนเพิ่มไลน์สินค้าตัวอื่นแต่อย่างใด

นักวิจัยและค้นคว้าคนสำคัญที่นำพา โอทู ก้าวสู่บันไดแห่งความสำเร็จ นั่นคือ ดร.สยามรัฐ ป้านภูมิ ที่ปรึกษาและนักวิจัย บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำถามมากมายเหลือเกินว่า ยังเป็นผู้ผลิต คิดค้น และวิจัย ให้กับ โอทู อีกหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ผมเป็นนักวิจัยอยู่ที่ โอทู มา 5 ปี ขอให้สมาชิกเชื่อมั่นได้เลยว่า ผมยังอยู่ที่นี่ สาเหตุที่ไม่ได้ปรากฏตัวบ่อย ก็เพราะว่าติดภารกิจอยู่ที่โรงงาน จ.เชียงราย

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ผมผลิตสินค้าเกษตรให้กับ โอทู มีทั้งหมดอยู่ 6 ตัวจนถึงปัจจุบัน เป็นของพืช 5 ตัว สัตว์อีก 1 ตัว สำหรับพืช 5 ตัวเป็นที่รู้จักกันดี เพราะมีการโปรโมทบ่อยมาก ส่วนสินค้าสำหรับสัตว์ 1 ตัว ไม่ค่อยได้เผยแพร่ซักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าสินค้าพืชมี 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ฟลาโวเจน, ฟลาโวก้า, ฟลาโวนิน, พรีเมี่ยม และล่าสุด โอทู ซุปเปอร์ พรีเมี่ยม เป็นตัวออแกนิค 100% เพื่อให้เกษตรกรสะดวกในการใช้ คนใช้ไม่ต้องผสมทีละตัว คนขายแนะนำคนซื้อได้ง่าย ๆ จึงเป็นการรวมสูตรจาก 4 ขวดไว้ในขวดเดียว ซึ่งถือเป็นสุดยอดนวัตกรรมสินค้าทางการเกษตรตัวใหม่ที่น่าจับตามองทีเดียว โดยในช่วงแรกจะออกเป็นตัว 500 cc และอีกซักปีเราก็จะมีขวดเล็กลอนซ์ตามมา

โอทูเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติหมายความว่าไม่ใช่สารที่เป็นพิษคือเป็นสารธรรมชาติ 100% คนที่ใช้มั่นใจคนที่กินมั่นใจโดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีสารเคมีอยู่ในแปลงพืชที่เรากินใช้รวมถึงยังเป็นผลดีต่อธรรมชาติถามว่าการนำเอาสูตรทั้ง 4 ตัวมารวมกันในขาดเดียวจะมีปฏิกิริยาต่อกันหรือไม่คำตอบคือไม่เพราะว่าสารทั้งหมดเป็นสารธรรมชาติเมื่อเอามารวมกันจะไม่เกิดปฏิกิริยาใดต่อกัน

สังเกตได้จากการนำเอาสมุนไพรหลายชนิดมารวมกันนับ 100 ชนิด สมุนไพรแต่ละชนิดก็ยังออกฤทธิ์อยู่เหมือนเดิม ซึ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติรวมกัน ก็ยังเกิดประสิทธิภาพ แต่ถ้าเป็นเคมีเอามารวมกันเมื่อไหร่ ก็จะเกิดการตกตะกอนชนกัน ก็เท่ากับว่าหมดฤทธิ์ไปเลย แต่ถ้าเป็นสินค้าของเราตัวนี้ เมื่อมีการนำมารวมกัน ก็จะเกิดประสิทธิภาพเป็นดับเบิ้ลมีคุณภาพมากกว่าเดิม 4 เท่าตัว โดยสินค้าที่เป็นนวัตกรรม ถ้ายิ่งมีการพัฒนาต่อเนื่อง ถามว่าจะเกิดการเพี้ยนหรือไม่ ซึ่งถ้าเราควบคุมดีมีหลักในการวิจัย ก็จะได้มาตรฐานตลอด แต่ถ้าเราไม่มีขั้นตอนการควบคุมที่ดี สินค้าก็อาจจะด้อยประสิทธิภาพลงได้ หรืออาจเพี้ยนลงได้เช่นกัน

สำหรับสินค้าตัวใหม่นี้ตอบโจทย์เกษตรกรได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเร่งพืชให้โตเร็วกว่าปกติ 2 - 3 เท่า สามารถป้องกันแมลงได้ ปรับปรุงดิน ป้องกันดินได้ด้วย หรือพืชที่หล่นลงไปในดิน ดินก็จะได้รับผลประโยชน์ด้วย สรุปว่า ฟลาโวกาปรับปรุงดิน, ฟลาโวนิน ป้องกันแมลง, ฟลาโวเจน หรือ พรีเมี่ยมช่วยเร่งเซลล์ เป็นต้น เพราะงานวิจัยตัวแรกที่คิดค้นขึ้นมา ก็ถือว่ายากสุด แต่สำหรับการพัฒนาสูตรใหม่ในตัวต่อ ๆ ไปก็ถือเป็นเรื่องง่ายครับ 
สำหรับผลงานการวิจัย ผมจะไม่หยุดอยู่กับที่ และต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดเสมอว่า จะต้องมีสินค้าที่ดีกว่านี้อีก อย่างเช่น สินค้าตัวเดียวใช้ได้แทบทุกอย่าง แม้กระทั่งปุ๋ย ใบ ดอก ผล ราก ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี หรือว่าเราอาจจะใช้ปุ๋ยมาสกัดอย่างละเอียด แล้วเอามาผสมกับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์สินค้าให้สมบูรณ์แบบขึ้นมา คือเป็นเคมีที่ปลอดภัยไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม คิดว่านวัตกรรมชิ้นนี้คงออกมาในปี 2557 ก็ทำให้หลากหลายมากขึ้น ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้ บางคนอาจจะใช้เป็นผง เพื่อความสะดวกในการขนส่ง เราสามารถเปลี่ยนของเหลวให้เป็นผงได้ หรือเป็นสเปรย์ก็ได้เหมือนกัน ที่สำคัญยังส่งออกไปทั่วโลกได้อีกด้วย
ดร.สยามรัฐ กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือ AEC ในปี 2558 ต้องบอกว่า นักวิจัยเกษตรกรไทยเรียกว่า เป็นจ้าวตลาดเกษตรของไทยมาอันดับ 1 ซึ่งสามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนได้ และที่สำคัญ โอทู ก็เป็นจ้าวตลาดอันดับ 1 ในเรื่องเกษตรอินทรีย์ ขณะนี้ความพร้อมของคนไทย เราก้าวหน้าไปจากประเทศเพื่อนบ้าน 10 ปี จึงไม่ต้องกลัวเรื่องการแข่งขัน ถือเป็นเรื่องดี ถือเป็นโอกาสที่เราจะเอาสินค้าของเราออกไปจำหน่าย ส่วนอุปสรรคในเรื่องภาษา ภาคเกษตรบางทีอาจไม่มีความจำเป็น ดังนั้น หากตลาดอาเซียนเปิดเมื่อไหร่ โรงงานผลิตก็สามารถรับกำลังผลิตได้เดือนละ 100,000 ขวด วัตถุดิบก็พร้อม ทุกอย่างพร้อมรบหมดครับ...ไม่มีปัญหา..!!

ขอขอบคุณ เนื้อข่าว: หนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์

 
 


อัตราส่วนการใช้โอทูพรีเมี่ยมและโอทูซุปเปอร์พรีเมี่ยมชมที่เว็บไซต์
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ติดต่อ นายโอทู 0884253367
www.misterotwo.com/

 Opp โอทูกับแผนการตลาดใหม่
อธิบายรายละเอียดบริษัทและผลิตภัณฑ์โอทู

 อธิบายแผนการตลาดใหม่ระบบ All Sale 10 % ทั่วประเทศ
ผลิตภัณฑ์สุดยอดเกษตรอินทรีย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพโอทู

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โครงการสร้างรายได้สร้างอาชีพกับโอทูฟลาโวเจน กระบวนการดำเนินธุรกิจ


โครงการสร้างรายได้สร้างอาชีพกับโอทูฟลาโวเจน (Otwo Flavogen)
ทุกท่านกำลังมองหาคำตอบของสิ่งต่อไปนี้
  1. ท่านที่เป็นนักศึกษา หรือที่ไม่ได้ศึกษา และกำลังมองหางานประจำที่ทำได้ทันที
  2. งานประจำของท่านเงินเดือนไม่พอใช้ ไม่ก้าวหน้า จะทำอย่างไรดี
  3. ท่านจะเกษียณจากงานประจำจะทำอะไรดี
  4. ท่านเป้นคนขยัน ตั้งใจทำงาน และอยากใช้เวลาว่างทำอะไรที่ใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อให้เกิดรายได้หลัก หรือรายได้เสริม
  5. ท่านมีเงินที่ต้องการลงทุนทำอะไรที่ไม่ต้องเสี่ยง ผลตอบแทนดี ผลตอบแทนรวดเร็ว ได้ทุนคืนในระยะเวลาอันสั้น
  6. ท่านต้องการมีงานทำมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และต้องการผู้แนะนำที่สามารถช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จ
  7. ท่านต้องการสร้างอาชีพและมีมรดกไว้ให้ลูกหลานในอนาคต
โอทู คือ คำตอบ
จะทำธุรกิจโอทูอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
  1. สร้างหรือมีรายชื่อผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำคือ โอทูฟลาโวเจน อาหารเสริมพืชอินทรีย์ชนิดเข้มข้นสำหรับพืชทุกชนิด และโอทูฟลาโวมอล อาหารสเริมสัตว์อินทรีย์ชนิดเข้มข้น ใช้ได้กับสัตว์ทุกชนิด และทุกช่วงการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังมีโอทูฟลาโวนิน สารเสริมภูมิคุ้มกันพืชอินทรีย์ชนิดเข้มข้น มีฤทธิ์ควบคุมและยับยั้งโรคและแมลงศัตรูพืช และโอทูฟลาโวก้าสารอินทรีย์เข้มข้นปรับสภาพดินและน้ำ ใช้ทำความสะอาดดิน ใช้ผสมกับปุ๋ยอินทรีย์หว่าน และใช้หมักฟาง ควบคุมวัชพืชในนานข้าว ป้องกันข้าวดีด จดรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์ เพื่อสะดวกในการติดต่อ
  2. สร้างหรือมีรายชื่อ ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาด้านความเสื่อมของร่างกาย เช่น เบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคหัวใจ ภูมิแพ้ SLE โรคไต มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดรคผิวหนัง งูสวัด สะเก็ดเงิน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำคือ เครื่องดื่มสมุนไพร คาวตอง หรือพลูคาว และโอทูเฮิร์บ หรือปัญจขันธ์ หรือเจียวกู้หลาน สุดยอดสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลต่างๆ อีกมากมาย
  3. สร้างหรือมีรายชื่อ ผู้ที่ต้องการมีรายได้ หรือมีปัญหาการเงินและต้องการรายได้ แนะนำธุรกิจโดยตรงแก่นักธุรกิจโดยเฉพาะนักธุรกิจเครือข่าย
  4. ศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์ บริษัทและแผนการตลาดให้แม่นยำ เพื่อท่านจะได้ามารถอธิบายและตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง ท่านควรมีชุดสมัคร สินค้า โบรชัวร์สินค้า ติดตัวไว้เสมอ เมื่อมีผู้สนใจและเพื่อขยายงานได้ทันที
  5. บริษัทมีการทำงานรองรับทางการตลาด สื่อฟรีทีวี และสื่อทีวีดาวเทียม การขยายงานทางเว็บไซต์กับผู้แนะนำหรืออัพไลน์ หลักสูตรอบรมคอมพิวเตอร์ การอบรมหลักสูตรผู้นำและหลักสูตร oppในเบื้องต้น ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชม.
สินค้าคุณภาพขายตัวเอง ให้พืชช่วยพูดแทนท่าน
ใช้โอกาสทูทุกวันที่ท่านมีพูดเกี่ยวกับโอทูให้คนฟัง
ลงมือทำทันทีอนาคตท่านกำหนดได้

ติดต่อที่ปรึกษาหรือผู้แนะนำของท่าน นายโอทู โทร.088-425-3367

กระบวนการดำเนินธุรกิจ
เครื่องมือ ประกอบด้วย
-ชุดสมัครตัวแทนจำหน่ายอิสระ ประกอบด้วยคู่มือดำเนินธุรกิจ แบบฟอร์มใบสมัคร และบัตรสมาชิก ชุดละ 100 บาท เป็นค่าธรรมเนียมสมาชิก คุณสมบัติสมาชิกคงสถานะตลอดชีพ
-โบรชัวร์สินค้า แผ่นพับ ป้ายโฆษณา และการโฆษณาลงสื่อวิทยุ อินเตอร์เน็ต
-แฟ้มรูปภาพผลงานการใช้ และแผนการตลาดเพื่อการนำเสนอธุรกิจ
-แผ่นซีดีผลงานโอทู
-อุปกรณ์ เช่น เสื้อยืดโอทู เสื้อโปโล และแจ็คเก็ตโอทู เพื่อสร้างความมั่นใจในการพบปะลูกค้า
-และที่ขาดไม่ได้เลยคือตัวสินค้า

ท่านสามารถเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โอทูได้ที่ไหนบ้าง
  • เรียนรู้จากผู้แนะนำของท่านหรืออัพไลน์
  • เรียนรู้จากเว็บไซต์ของบริษัท หรือจากของผู้แนะนำของท่าน ติดตามข้อมูล ข่าวสารล่าสุด ตารางอบรม และโปรโมชั่น ฯลฯ
  • เรียนรู้จากเอกสาร คู่มือ และโบรชัวร์สินค้า
  • เรียนรู้จาก CDที่ทางบริษัทหรือทางผู้นำจัดทำขึ้น
  • เรียนรู้จากประสบการผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ จากการประชุม และสมนาต่างๆ
  • เรียนรู้จากการลงพื้นที่เพาะปลูกจริงจากเกษตรกร
  • เรียนรู้จากรายการโอทูที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง INTV ทุกวัน และ
  • รายการเกษตรทั่วไทยทางช่อง 5
  • รายการฟ้าสว่างที่บางเกษตรทางช่อง NBT
  • รายการเรื่องเล่าชาวเกษตรช่อง MVTV 5 วาไรตี้ เป็นต้น
  • เรียนรู้จากหลักสุตรอบรมเบื้องต้น หรือ OPP (opportunity plan) หรือหลักสูตรผู้นำต่างๆ ที่บริษัทจัดขึ้น
แนวทางการดำเนินธุรกิจ
1. การนำเสนอ-การแนะนำผลิตภัณฑ์โอทู และธุรกิจ
การทำตลาดสำหรับตัวแทนนับเป็นสิ่งสำคัญ การทำตลาดในท้องถิ่น ต่างจังหวัด เช่น การลงสื่อโฆษณาวิทยุ หนังสือพิมพ์ ลงโฆษณาสื่อเว็บไซต์ ต่างๆ สร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และการลงพื้นที่ถ่ายวีดีโอเพื่อออกอากาศสำหรับขยายงานทางทีวีและทางเว็บไซต์ การทำโฆษณาและการใช้สื่อเพื่อเป็นฐานรองรับให้กับผู้สนใจในผลิตภัณฑ์และในธุรกิจที่ท่านนำเสนอ และท่านในฐานะตัวแทนต้องเป็นผู้ที่สามารถติดต่อได้สะดวกเสมอ
(I  can be reached always)
-ข้อมูลบริษัทโอทูอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด สรรพคุณเด่น คุณสมบัติของโอทู ตอบปัญหาของเกษตรกร ต้นทุนลด ผลผลิตเพิ่ม ทั้งปริมาณและคุณภาพ ตอบข้อโต้แย้งได้ การลงพื้นที่ดูแปลงเกษตรกรตัวอย่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์โอทู แนะนำวิธีสร้างรายได้ แผนการตลาด
2. ติดตาม-สอบถาม-นำเสนอ
-สอบถามการเพาะปลูก พืชที่ปลูก การเตรียมการเพาะปลูก เดือนที่ปลูก การใช้ปุ๋ยและยา ปัญหาที่พบ การแก้ปัญหา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์โอทูเกษตรอินทรีย์คุณภาพ
3.การขาย
-การเปิดและปิดการขาย บริหารการขาย  การชำระค่าสินค้า นำเสนอวิธีสร้างรายได้ การบอกต่อ
4.การติดตามผลงาน การตามงาน
-ติดตามผลงานของเกษตรกรที่ใช้ ก่อนและหลัง ปัญหาที่พบ การแก้ปัญหาที่พบ
-ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ รวบรวมผลงานเป็นของตัวเองและสายงาน ส่งบริษัทเพื่อขยายงานทางเว็บไซต์ของบริษัท และทีวีดาวเทียม INTV และนำมาลงเพื่อขยายงานทางเว็บไซต์ เพื่อเป็นข้อมูลและตัวอย่างผลงานการใช้ในการนำเสนอต่อไป
5.ขยายผล ทำงานอย่างต่อเนื่อง
-ขยายผลจากผู้ใช้สู่ผู้ดำเนินธุรกิจ
-เข้าอบรมคอร์สผู้นำเพื่อพัฒนาตนเอง และถ่ายทอดให้ทีมงาน
-จัดทำกลุ่มตามบ้านนำเสนอ จัดประชุมย่อย ฝึกก่อนนำเสนอแบบมืออาชีพ
-แนะนำผู้สนใจเข้าร่วมธุรกิจโอทู
-เข้าบริษัท รับข้อมูลความรู้โดยตรงและเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทีมงานและลูกค้าหรือผู้สนใจธุรกิจโอทู

ตัวแทนจำหน่ายโอทู หรือที่ปรึกษาธุรกิจ
การแนะนำอาชีพนักธุรกิจเครือข่ายโอทู
-การแนะนำอาชีพนักธุรกิจแก่ผู้มุ่งหวัง นักธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง และกลุ่มเกษตรกรที่ให้ความสนใจโดยตรง
-แผนการตลาด แผนสร้างรายได้ วิธีสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง การทำตลาด และขยายตลาด
-ข้อมูลบริษัท ผลิตภัณฑ์เด่น ทำไมต้องโอทู หนึ่งเดียวในโลก
-ลงพื้นที่ดูแปลงผลงานโอทูเพื่อเก็บข้อมูล ภาพและวีดีโออย่างสม่ำเสมอ พบปะหรือเข้าอบรมคอร์สผู้นำเพื่อพัฒนาตนเองและถ่ายทอดสู่ทีมงาน
-บริหารทีมงาน ปัญหาที่พบ ช่วยเหลือผู้มุ่งหวังให้ประสลความสำเร็จ
-จัดกลุ่มผู้นำ ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเกษตร และถ่านทอดสู่เกษตรกร
-ติดตามข่าวสารจากบริษัทหรือผู้นำ การอบรม และเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อมีโอกาส เพื่อที่ท่านจะได้ไม่เป็นคนตกข่าว
-ปรสานงานกับคลังสินค้าให้เป้นแหล่งถ่ายทอดข้อมูลความรู้ แหล่งรับข่าวสารจากบริษัท โปรโมชั่นหรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รวมทั้งการดูแลผู้สนใจและการให้ความช่วยเหลือสมาชิกรายใหม่ทั้งภาพผลิตภัณฑ์และการทำธุรกิจ

ข้อดี ทำไมต้องโอทู "หนึ่งเดียวในโลก"
"นวัตกรรมแห่งผลิตภัณฑ์ มหัศจรรย์จากธรรมชาติ"
1.สารฟลาโวนอยด์ สารสกัดนาโนจากพืชผักสมุนไพรธรรมชาติเข้มข้น เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดูดซึมของพืช มีบริษัทเดียวที่ผลิตใช้ในไทย และทั่วโลกมีใช้อยู่ 4 ประเทศ แต่ประเทศไทยโชคดีทางความหลากหลายที่มีพืชพันธุ์มากมายจึงสามารถผลิตได้และนำมาใช้ในทางการเกษตร
2.สารฟลาโวนอยด์เป็นภูมิคุ้มกันที่พืชต้องการมากที่สุด มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคพืชและขับไล่แมลง ช่วยขยายเซลล์พืชทั้งตั้งแต่ 7 นาทีแรกที่ฉีด พืชจึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยและยา 30-50 % พืชให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น30-300%
3.บริษัทและทีมงานพร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือทั้งภาคผลิตภัณฑ์และการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง








"โอทู ฟลาโวเจน"เป็นสารสกัดจากพืชสมุนไพรในกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนพืช แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าพืชทั่วไปถึง 10,000 เท่า ทำหน้าที่เป็นสารต้านแมลง และโรคพืช ทำหน้าที่ป้องกันพืชสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม "เมื่อเทียบกับสารตัวอื่นๆ สามารถชี้ชัดได้ว่าสารฟลาโวนอยด์(โอทู ฟลาโวเจน)เพิ่มผลผลิตได้ 30-300%การใช้สารเคมีเกษตร(เกษตรอินทรีย์)เพิ่มผลผลิตได้ 30% การใช้วิธีดัดแปลงพันธุกรรม (เกษตรจีเอ็มโอ) เพิ่มผลผลิต 30% การใช้สารอินทรีย์(เกษตรอินทรีย์ทั่วไป)เพิ่มผลผลิต 10% การใช้จุลินทรีย์(เกษตรชีวภาพ)เพิ่มผลผลิต 10% การใช้สารสกัดจากสัตว์ เช่น ไคโตซาน แมลงปีกแข็ง และอื่นๆ เพิ่มผลผลิต 15% ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลทางวิชาการที่ทำการวิจัยมาแล้ว”

โอทู รางวัล "สุดยอดนวัตกรรมสินค้าเกษตรอินทรีย์"

 Dance now and move forward
ภาพจากงานสมนา 22-24 เมษายน 2556

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นาโนเทคโนโลยี คืออะไร?

 
นาโนเทคโนโลยี คืออะไร

นาโนเทคโนโลยี
หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า "นาโนเทคโนโลยี" บางคนอาจจะผ่านหูมาบ้างแล้ว แต่ ณ วินาทีนี้ "นาโนเทคโนโลยี" กำลังกลายมาเป็นโครงการศึกษา และวิจัยในระดับชาติของหลายประเทศ ในส่วนของรัฐบาลไทยก็เตรียมจะนำเรื่องนี้ เข้าสู่วาระแห่งชาติในปีนี้ด้วย

นาโนเทคโนโลยี เป็นการสร้างเทคโนโลยีจากอะตอม และโมเลกุลของสิ่งต่าง ๆ ที่มีชีวิตขนาด 1 ในพันล้านส่วน มาใช้ให้เกิิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากที่สุด โดยเฉพาะการช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดี และสามารถรักษาโรค ซึ่งเรื่องนี้ กำลังเป็นที่แพร่หลายในวงการแพทย์ของญี่ปุ่นและอเมริกา เพราะสามารถสร้างเครื่องมือขนาดจิ๋วรักษาโรคในระดับเซลล์ หรือโมลเลกุลในร่างกายได้ อย่างเช่นโรคมะเร็ง

ในส่วนของประเทศไทย ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน แต่จะเน้นทางด้านสร้างเสริมสุขภาพอนามัยเป็นหลัก โดยนำสิ่งที่เรามีบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งนับเป็นมรดกอันมีค่า มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากเมือง ไทยมีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับมีนักวิทยาศาสตร์ไทย ที่มีความสามารถในการเพาะเลี้ยงอาหารโปรตีน ที่มีคุณค่าระดับโมเลกุล ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกด้วย รัฐบาลจึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเต็มที่ โดยจะนำเข้าสู่วาระแห่งชาติในปีนี้

ศาสตราจารย์มณีวรรณ กมลพัฒนะ ราชบัณฑิตสำนักวิทยาศาสตร์ เป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสารกระตุ้นการเติบโตทางพันธุกรรมของโคเนื้อ โดยอาศัยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งอาจารย์มองว่าอาหารเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์แล้ว จะส่งผลดีได้มากน้อยเพียงใดนั้น คงจะต้องอยู่ที่ตัวผู้บริโภคเอง

อาจารย์มณีวรรณ จึงได้นำเสนอเรื่องของนาโนเทคโนโลยีในวิถีชีวิตไทย เพื่อกระตุ้นให้ภาครัฐ นักวิจัย รวมถึงประชาชนทั่วไป หันมาให้ความสำคัญในการบริโภคอาหารควบคู่กับการจัดสมดุลยจิต โดยใช้หลักการเดียวกับนาโนเทคโนโลยี เพราะในร่างกายคนเรามีจำนวนเซลล์ที่รับสารอาหารมากมาย หากสามารถควบคุมได้ด้วยจิตแล้วละก็ จะช่วยให้ดูดซึมสารอาหารที่มีคุณค่าไปเสริมสร้างเซลล์ใหม่ได้อย่างพอดี

ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพียงแต่วันนี้ เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการรับประทาน การปรุงอาหาร ให้รู้จักคิดรู้จักเลือก โดยเฉพาะการนำสมุนไพรไทย มาเป็นส่วนประกอบสำคัญในแต่ละมื้ออาหารด้วย ขณะเดียวกัน ต้องหันมาให้ความสำคัญในการจัดสมดุลยจิต โดยวิปัสสนากรรมฐานด้วย เพียงเท่านี้โรคภัยต่างๆ ก็จะไกลตัว โดยที่เราไม่ต้องไปพึ่งนาโนเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

แต่เพื่อความสะดวก และง่ายในการปฏิบัติของประชาชน ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจารย์และคณะจะมีการจัดสร้างสูตรเฉพาะกับบุคคลที่มีสุขภาพระดับต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการย่อย และดูดซึมปริมาณโมเลกุลของอาหาร และหากได้เผยแพร่ไปยังร้านอาหารไทยในต่างแดน ก็คงจะเป็นอีกหนทางหนึ่ง ในการทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรม วิถีชีวิตไทยในเรื่องอาหาร และการบริโภค เพื่อความเป็นครัวโลกของไทย .

นาโนเทคโนโลยี คืออะไร(www.nanozine.com) ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราสามารถผลิตชิ้นส่วน หรือสิ่งใดก็ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายถูกแสนถูก ซึ่งสามารถประกอบตัวกันขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง เหมือนกับการนำความต่างศักย์ทางไฟฟ้า ในรูปของ บิท(bit) มาประกอบกันเป็นข้อมูลด้านต่างๆ จนกลายเป็นคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันได้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น
การผสมผสานกันของเทคโนโลยีด้านเคมีวิทยา และวิศวกรรมศาสตร์ ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคตเป็นอีกรูปแบบได้ เรียกว่า "นาโนเทคโนโลยี" ทำให้เกิดยุคที่เครื่องยนต์กลไก สามารถสร้างตัวเองขึ้นใหม่ได้ ทำให้ได้สินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาถูก เพราะเราสร้างสิ่งต่างๆ จากหน่วยของอะตอม นาโนเทคโนโลยี จึงเป็นอุตสาหกรรมระดับโมเลกุล (โมเลกุล คือการประกอบกันของอะตอม เพื่อหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง) หรือการสร้างสิ่งต่างๆจากอะตอม ในหน่วยวัดระดับนาโนเมตร หรือมีขนาดเพียง 1/1,000,000,000 เมตรเท่านั้น (เล็กขนาดที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) อะไรมันจะอภิมหาจิ๋วขนาดนั้น
และด้วยความสามารถในระดับที่ลึกนี่เอง ทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆในระดับอะตอมได้ เป็นผลให้เราสามารถเข้าไปควบคุม หรือสร้างสิ่งต่างๆที่น่าจะเป็นไปได้ในด้านต่างๆได้
อาทิ สินค้าที่สร้างตัวเองได้, คอมพิวเตอร์เร็วขึ้นล้านเท่า, การเดินทางในอวกาศ, การไขปริศนาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงความเป็นอมตะ, การสร้างอาหารที่ไม่มีวันหมด, การกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงทุกมุมโลก, การเพาะพันธุ์สัตว์ที่สูญพันธุ์ขึ้นใหม่, การใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆอีกมายมาก ตามแต่มนุษย์จะจินตนาการไปถึง (http://home.cnet.com/specialreports/0-6014-7-818759.html)
ในโลกของสารสนเทศ ดิจิตอลเทคโนโลยี สามารถสร้างตัวเองใหม่ ด้วยความรวดเร็ว และสมบูรณ์ ในราคาที่ถูกได้ แล้วจะเป็นไรไป ถ้าหากว่าแนวความคิดนี้ สามารถนำมาใช้ในโลกที่เราจับต้องได้
ถ้าคุณสามารถรักษาโรคมะเร็ง โดยการดื่มเพียงน้ำผลไม้ ที่มีหุ่นยนต์จิ๋วแบบที่มองไม่เห็น ซึ่งมีหน้าที่รักษาโรคต่างๆ ตามที่โปรแกรมไว้ มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กเท่าเซลล์ของมนุษย์ คุณสามารถไปท่องเที่ยวทั่วจักรวาลได้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เท่ากับไปต่างจังหวัด จะเอามั้ย นาโนเทคโนโลยีหวังเอาไว้เช่นนั้น
ไม่ว่า จะเป็นนิยายหรือภาพยนตร์ แนววิทยาศาสตร์ ต่างก็มีจินตนาการที่รุดหน้า ซึ่งเราไม่สามารถนึกภาพได้ออกว่า ในอนาคตชีวิตของเราจะเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่ แต่เมื่อมีแนวความคิด ของนาโนเทคโนโลยีเกิดขึ้น มันเหมือนกับ ทำให้ฝันของเราใกล้ความจริงเข้าไปทุกที
นาโน หมายถึง หนึ่ง ใน พันล้านหน่วย นาโนเทคโนโลยี คือ
วิทยาการประยุกต์แขนงใหม่ที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยีในการประกอบและผลิตสิ่งต่างๆ ขึ้นมาจากการจัดเรียงอะตอม หรือโมเลกุลเข้าด้วยกันด้วยความแม่นยำและถูกต้องในระดับนาโนเมตรหรือขนาด 1 ในพันล้านส่วนของ 1 เมตร โดยเป็นการผสมผสานของวิทยาศาสตร์หลายแขนง เช่น ชีววิทยา ชีวเคมี วิศวกรรมศาสตร์สาขา หุ่นยนต์ และเครื่องจักรกล ศาสตราจารย์ริชาร์ด ฟายน์แมน (Richard Feynman ผู้ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ. 1965) ผู้เปิดศักราชของนาโนเทคโนโลยี ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 ว่า "สักวันหนึ่ง เราจะสามารถประกอบสิ่งต่างๆ ผลิตสิ่งต่างๆ ขึ้นมาจากการจัดเรียงอะตอมด้วยความแม่นยำ และเท่าที่ข้าพเจ้ารู้ ไม่มีกฎทางฟิสิกส์ใดๆ แม้แต่หลักแห่งความไม่แน่นอน (Uncertainty Principle) ที่จะมาขัดขวางความเป็นไปได้นี้"
เค. อีริค เดร็กซเลอร์ (K. Eric Drexler) เจ้าพ่อแห่งนาโนเทคโนโลยี ผู้นิยามคำว่า 'นาโนเทคโนโลยี' นาโนเทคโนโลยีในจินตนาการของ เดร็กซเลอร์ ต้องเหมือนกับต้นไม้ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือสารคาร์บอนต่างๆที่นำไปใช้เลี้ยง ลำต้น สร้างใบ ดอก และผล โดยไม่เหลือสิ่งตกค้างใดๆที่เป็นพิษ
ปัจจัยที่จะทำให้นาโนเทคโนโลยีเป็นจริงได้ ปัจจัยแรก ต้องสามารถจับอะตอมให้ได้ทีละอะตอม แล้วจึงนำอะตอมมาเรียงในตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อนำมาใช้ในการสร้างอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ นั่นหมายถึง เราจะต้องเข้าใจคุณสมบัติด้านฟิสิกส์ของอะตอมและโมเลกุลอย่างถ่องแท้ ก่อนที่นาโนเทคโนโลยีจะสำเร็จเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้นั้น นักนาโนจะต้องสร้างแขนยนต์ในขนาดนาโนขึ้นมาก่อน ซึ่งเรียกว่า"นาโนยนต์ " โดยนาโนยนต์นี้มีหน้าที่ จับอะตอมและโมเลกุลที่สามารถทำปฏิกิริยากันได้ ไปเรียงตัวใหม่ ในตำแหน่งที่เราต้องการ
ปัจจัยที่สอง คือ ตัวนาโนยนต์ต้องสามารถจำลองตัวเองได้ในขณะที่ผลิตสิ่งต่างๆ ซึ่งการที่นาโนยนต์จะสามารถจำลองตัวเองจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น4 จาก 4 เป็น 8 ได้นั้นต้องอาศัยซอฟต์แวร์ที่สามารถออกคำสั่งให้นาโนยนต์จำลองตัวเองขึ้นมา ปัจจัยนี้เกิดขึ้นมาเพื่อให้เทคโนโลยีด้านนี้ดำเนินได้อย่างคุ้มทุน ด้วยการที่นาโน-ยนต์สามารถจำลองตัวเองได้นั้น เป็นผลให้ต้นทุนในการสร้างวัตถุต่าง ๆ มีราคาต่ำกว่าต้นทุนในปัจจุบัน ยิ่งมีนาโนยนต์มาก ต้นทุนก็จะยิ่งถูกลง และในขณะเดียวกัน การจัดเรียงอะตอม ยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำ ก็จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เชื่อถือได้


“ นาโนเทคโนโลยี” เป็นการสร้างเทคโนโลยีจากอะตอม (Atom) และโมเลกุล (Molecule) ของสิ่งต่างๆ ที่มีขนาด 1 ในพันล้านส่วน (1 นาโนเมตร = 10 -9 เมตร) เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการการสร้าง หรือการสังเคราะห์วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีขนาดเล็กมากในระดับนาโนเมตร (1-100 นาโนเมตร) รวมถึงการออกแบบหรือการใช้เครื่องมือในการสร้างวัสดุที่มีขนาดเล็กมาก หรือใช้การจัดเรียงอะตอมและโมเลกุลในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ส่งผลให้โครงสร้างของวัสดุหรืออุปกรณ์มีคุณสมบัติพิเศษขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ฟิสิกส์ เคมี หรือชีวภาพ จนก่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้วัสดุที่มีขนาดในระดับนาโนเมตรมีคุณสมบัติทางไฟฟ้า, ทางกายภาพ และทางแสง แตกต่างไปจากวัสดุที่มีขนาดใหญ่อย่างสิ้นเชิง ก่อให้เกิดวัสดุที่มีคุณสมบัติแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

อันที่จริงกระบวนการผลิตในระดับนาโนไม่ใช่ของใหม่ หากแต่เป็นกระบวนการที่มีอยู่ตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นการสร้าง DNA(Deoxy Nucleic Acids) การแลกเปลี่ยนแร่ธาตุระหว่างเซลล์ การซ่อมแซมตัวเองของอวัยวะเมื่อเกิดบาดแผล หรือเป็นโครงสร้างที่มีความสลับซับซ้อนในพืชและสัตว์ ยกตัวอย่าง เช่น ขนแข็งขนาดเล็กที่เรียกว่า ซีเต้ (Setae) จำนวนนับล้านเส้นเรียงขนาดอัดแน่นอยู่ โดยที่ส่วนปลายของขนซีเต้แต่ละเส้นนั้นก็ยังมีเส้นของปลายแบนที่มีขนาดเล็กกว่า เรียกว่า สปาตูเล่ (Spatulae) ประกอบอยู่อีกหลายร้อยเส้น โดยที่ สปาตูเล่ แต่ละเส้นจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กประมาณ 200 นาโนเมตร ช่วยในการยึดติดกับโมเลกุลของส่วนประกอบของผนังหรือเพดานหรือสารเคลือบนาโนบนใบบัวที่มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง ทำให้ใบบัวมีคุณสมบัติเกลียดน้ำ เป็นต้น

ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบัน จึงทำให้นาโนเทคโนโลยี เกิดการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เช่น ความสามารถในการสร้างเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถมอง วัด หรือสัมผัสวัตถุ ในระดับนาโนได้อย่างแม่นยำ และผสมผสานกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ , เทคโนโลยีสารสนเทศ จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล และศึกษาคุณสมบัติของสสารได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น ทางด้านอาหาร เกษตรกรรม การแพทย์ เครื่องสำอาง พลังงาน เครื่องนุ่งห่ม การกีฬา การทหาร คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ สิ่งแวดล้อม การสื่อสารและโทรคมนาคม
ขอขอบคุณ ขอมูลจาก
http://nanotech2u.blogspot.com/

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะเริ่มดื่มเครื่องดื่มสมุนไพร "กระบวนการล้างสารพิษและปรับสภาพเซลล์"

เว็บไซต์หลัก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตราโอทู
และผลิตภัณฑ์อินทรีย์คุณภาพเพื่อการเกษตร


อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะที่เริ่มดื่มเครื่องดื่มสมุนไพร
ปฎิกริยาที่เป็นไปได้เฉพาะบุคคลระหว่างดื่ม เครื่องดื่มสมุนไพร

ท่านมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือไม่!?

ลำดับ อาการ อวัยวะที่เกี่ยวข้อง
  1. ง่วงนอน มีปัญหาเกี่ยวกับปอด
  2. เหนื่อยอ่อนเพลีย มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
  3. มึนศรีษะ นอนไม่หลับ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และกระเพาะอาหาร
  4. มีไข้ตัวร้อน มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตและปอด
  5. มีแก๊สในกระเพาะอาหาร มีปัญหาเกี่ยวกับความดัน และความเข้มของเลือดไม่สมดุล
  6. เหงื่อออก มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ ความร้อนในร่างกายไม่สมดุล
  7. ท้องร่อง มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำดีและตับ
  8. เจ้บคอ มีปัญหาเกี่ยวกับปอด และตอมทอมซิล
  9. คอแห้ง มีปัญหาเกี่ยวกับโลหิต
  10. ปวดตามข้อและร่างกาย มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด กระดูก
  11. มีอาการบวมตามร่างกาย มีปัญหาเกี่ยวกับไต
  12. ปวดบั้นเอว มีปัญหาเกี่ยวกับไต
  13. อุจจาระมีสีเลือด มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่
  14. ท้องผูก มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่
  15. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุน มีปัญหาเกี่ยวกับไต
  16. ปัสสาวะขัด มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดและไต
  17. น้ำตาลในเลือดเพิ่ม มีปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน
  18. ความดันโลหิตเพิ่ม มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด อารมย์
  19. เบื่ออาหาร มีปัญหาเกี่ยวกับม้าม
  20. รับประทานอาหารได้มากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับระดับคลอเรสเตอรอลเปลี่ยนแปลง
  21. ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับม้าม
  22. คันบริเวณตา มีปัญหาเกี่ยวกับสันประสาทตา และไต
  23. คับบริเวณตา จมูก มีปัญหาเกี่ยวกับโพรงจมูก และระบบทางเดินหานใจบกพร่อง
  24. มีผด ผื่น คัน มีปัญหาเกี่ยวกับเลือด

กระบวนการขับล้างสารพิษ และปรับสภาพเซลล์
เมื่อมีปฎิกริยาแสดงว่าร่างกายกำลังผ่านกระบวนการฟื้นฟู

ลำดับ ชนิดของโรค อาการปฎิกริยาโต้ตอบ
  1. ความดันโลหิตความดันโลหิตอาจขึ้น 1 สัปดาห์ วิงเวียน ปวดหัว มึนหัว เจ็บคอมากขึ้น หนักหัว 3-7 วัน ดื่มต่อเนื่องอาการจะลดลง
  2. ความดันโลหิตต่ำ
    หนักหัว มึนๆ ปวดเมือ่ยตัว รู้สึกร้อน ฉี่ไม่เป้นฟอง และถ่ายเป็นมัน
  3. เจ็บหน้าอก กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลอดเลือดตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย
  4. เส้นเลือดสมองอุดตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต
    มึนๆ ปวดหัว ปวดเมื่อย ตัวชา มือเท้าชา มีไข้ อาการตื่นตัว นอนไม่หลับ เพราะเกิดจากการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย
  5. ไมเกรน ปวดหัว
    ระยะแรกอาจปวดมากกว่าเดิม ต่อมาอาการค่อยหายไปช้าๆ ดีขึ้น หลังทาน 1-3 ขวด
  6. เบาหวานระดับน้ำตาลขึ้นชั่วคราว แขนขาบวมเล็กน้อย ถ้าคันจะคันมากขึ้น แล้วค่อยดีขึ้น หลังทานำด้ 7-15 วัน ถ้าแพ้มากอาจจะปวดตามข้อ ขาชา ถ้าเกิดอาการไม่สามารถสร้างอินซูลิน ให้ทานต่อเนื่อง 3-6 เดือน อาการจะดีขึ้น
  7. มะเร็ง 90-75-70-50-25 %
    ปวดเมื่อย เหนื่อยเพลี้ย เจ็บข้อ ท้องเสีย เป็นต้น ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง อาจมีเลือดกำเดาไหลหรือออกบริเวณเหงือก หรือเลือดปนในอุจจาระ
  8. SLE (เอส-แอล-อี)อาการดีขึ้นหลังดื่ม 1-2 ขวด
  9. แผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก
    รู้สึกเจ็บบริเวณกระเพาะ อึดแน่น มีลมแน่นท้อง มีแก๊ส สะอึก ให้ดื่มอย่างสมำเสมอ อาการจะหายไป
  10. ตับอักเสบเฉียบพลัน- เรื้อรัง
    คลื่นไส้ อาเจียน เรอลม เป้นผื่นตามผิวหนัง คัน อุจจาระมีเลือด และปัสสาวะมีกลิ่นแรง ง่วง มีสิวเสี้ยน
  11. มะเร็งเม็ดเลือดขาว
    กระหายน้ำ อึดแน่นลิ้นปี่ ไม่สบายท้อง มีเลือดออกที่เหงือก
  12. ภูมิแพ้แบบหวัดระคายคอ น้ำมูกไหล คันจมูกมากขึ้น มีเสมหะ
  13. หอบหืดหายใจลำบากช่วงแรก อาจเหนื่อยหอบมากขึ้น คออักเสบหรือแน่นคอ เด็กจะดีขึ้นหลังดื่ม 2-4 เดือน ผู้ใหญ่จะดีขึ้น 6-12 เดือน
  14. โรคไต ท้องบวม
    มีก๊าซ อาจลดระดับโปรตีนในเลือดช่วงแรก เท้าและแขนขาบวม ปวดเมื่อย เหนื่อยมากขึ้น ปัสสาวะมีสีเข้ม
  15. ล้างไต ฟอกเลือด
    ปวดบวมมากขึ้น ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น
  16. เก๊าท์, โรคกระดูก
    ปวดบวมมากขึ้น ปัสสาวะมีสีเข้มข้น ง่วงนอน เมือยมือและขา เพราะร่างกายมีสภาวะเป็นกรด ถ้ามีอาการรุนแรงให้ใช่ร่วมกับยาแก้ปวด หรือฉีดยา
  17. ริดสีดวง
    เจ็บคอและคันทวารหนัก มีเลือดออกจากรูทวารเพราะขับสารพิษ อุจจาระมีสีดำ ร่างกายขับสารพิษ ไวรัส และแบคทีเรียที่สะสมในร่างกาย
หมายเหตุ: ปฎิกริยาเหล่านี้เป้นสิ่งปกติจะแสดงอยู่ 2-3 วันหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เช่นผลมาจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สามารถรุบุได้ดังนี้ ร่างกายได้รับจุลินทรีย์ หรือเอ็นไซม์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสิ่งมีชีวิต คือ แบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติก ซึ่งแบคทีเรียทั้งสี่ตัวนี้ ทำให้เกิดการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค สามารถขจัดสิ่งแปลกปลอม รวมทั้งขับสารพิษได้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราดีขึ้นนั่นเอง จึงเป้นสิ่งปกติและแสดงอาการอยู่เพียง 2 -3 วัน ระหว่างที่เกิดปฎิกริยาเหล่านั้นควรรับประทานต่อเนื่องเพื่อความสมบูรณ์ของร่างกาย

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โอทู สุดยอดเกษตรอินทรีย์ แผนธุรกิจ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มสมุนไพรไทยยอดนิยม


ผลิตภัณฑ์แนะนำ โอทูฟลาโวก้า ใช้ปรับสภาพดิน บำรุงดิน ทำความสะอาดดิน
ใช้หมักฟาง ใช้ผสมกับปุ๋ยหว่าน ผลงานนวัตกรรม คืนชีวิตในแก่แผ่นดิน

เว็บไซต์หลัก นายโอทู โทร 088-4253367
www.MisterOtwo.com

ขอแนะนำ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวราคาไม่แพง ข้าวสราญรมณ์
จำหน่ายในราคากระปุกละ 380 บาท ขนาด 60 แคปซูล
ซื้อ 2 กระปุกขึ้นไป จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
ซื้อ 1 โหล ลดเหลือกระปุกละ 350 บาท
ซื้อ 2 โหล เหลือกระปุกละ 290 บาท
สนใจติดต่อ นายโอทู โทร 088-425-3367



วีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ โอทูฟลาโวเจน สุดยอดเกษตรอินทรีย์



NEW Otwo super Premuim ขนาด 500 ซีซี และ 100 ซีซี
แผนการตลาด ผลิตภัณฑ์โอทู บริษัทโอทูอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด





                                     
ตัวอย่างการคำนวณรายได้ 1 แนะนำ 5 ลึก 10 ชั้น

           แผนการตลาดแบบ All Sale โบนัสรวมทั้งประเทศ 10 %



 หมายเหตุ จำนวนตัวเลขหาร 400 200 50 20 5 และ 2 หมายถึงจำนวนสมาชิกที่ทำคุณสมบัติได้

              ตัวอย่างการคำนวณโบนัสรายเดือน Roll up level



ภาพงานโอทูฉลองชัยเมืองทองธานี
ผู้นำหรือตัวแทนขึ้นรับรางวัลโบนัสการขยายงาน

โอทูพรีเมียมชนิดเข้มข้น ขนาด 100 ซีซี ใช้ได้ร่วม 60 ไร่
และ syringe ขนาดเล็ก 5 ซีซี ราคา 5 บาท
ท่านสามารถซื้อตามร้านขายยาทั่วไป

โบรชัวร์โอทู-หน้า
โบรชัวร์โอทู-หลัง


โอทูฟลาโวเจน  ขนาด 500 ซีซี และ 100 ซีซี

สินค้าแนะนำ สินค้ายอดนิยม สินค้าขายดี
โอทูพรีเมียม บำรุงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชอย่างได้ผล
 (ใหม่ ใช้ได้ร่วม 300 ไร่) ขนาด 500 ซีซี
ราคาสมาชิกกล่องละ 2,900 บาท ราคาขายปลีก 3,500 บาท คะแนน 2,000 พีวี
โอทูฟลาโวนิน มีฤทธิ์ควบคุมป้องกันโรคและศัตรูพืช เช่น เพลี้ย ปัญหายางหน้าตาย เชื้อรา
 และโอทูฟลาโวก้า อินทรีย์ปรับสภาพน้ำ ปรับสภาพดินชนิดเข้มข้น ใช้ทำความสะอาดดิน
ใช้ผสมปุ๋ยอินทรีย์หว่านเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยถึง 5 เท่า ใช้ฉีดพ่นในนาข้าวก่อนหว่านควบคุมวัชพืช
ใช้ร่วมกันทั้งสามขวดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ปลอดภัย ปลอดสารพิษ สารเคมี
 ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และต่อสิ่งแวดล้อม
อัตราส่วนวิธีการใช้กรุณาเข้าเว็บหลักครับ
www.MisterOtwo.com/


โอทู กล่องแพ็ค 3 ขวด ขนาด 100 ซีซี
ราคาสมาชิก 1,200 บาท ราคาขายปลีก 2,100 บาท คะแนน 500 พีวี


                                                  โอทูพรีเมียมชนิดเข้มข้นแพ็ค 3 ขวด
ขนาด 100 ซีซี  ครบสูตร เพื่อการเกษตร

โอทูพรีเมียมชนิดเข้มข้น ขนาด 100 ซีซี


โอทูฟลาโวมอล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัตว์ สินค้าแนะนำ สินค้ายอดนิยม
สัตว์โตเร็วได้น้ำหนัก แข็งแรง ปราศจากโรค ช่วยลดค่ายา และอาหารสัตว์
ลดระยะเวลาผลผลิต ขายได้ราคา มีกำไรเพิ่ม
ขนาด 2500 ซีซี
ราคาสมาชิก 1,500 บาท ราคาขายปลีก 1,800 บาท 

ฟลาโวก้าชนิดเม็ด ปรับสภาพดิน กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช ขนาด 25 กก.
ราคาสมาชิก 400 บาท ราคาขายปลีก 500 บาท คะแนน 250 พีวี
.....................................................

ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

New looks
เครื่องดื่มสมุนไพรไทยยอดนิยม พลูคาว หรือคาวตอง คิวเท็น พลัส ขนาด 750 ml.
ราคาสมาชิก 1,000 บาท ราคาขายปลีก 1,500 บาท คะแนน 500 พีวี

คลิกที่รูปเพื่อขยายอ่าน


New looks
เครื่องดื่มสมุนไพรไทยยอดนิยม ปัญจขันธ์ หรือเจียวกู่หลาน ไม่ใช้โสมแต่ดียิ่งกว่าโสม ขนาด 750 ml.
ราคาสมาชิก ขวดละ 1,000 บาท ราคาขายปลีก 1,500 บาท คะแนน 500 พีวี

คลิกที่รูปเพื่อขยายอ่าน


F-2 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสตรี กล่องละ 750 บาท
ราคาสมาชิก ชุดละ ( 2 กล่อง) 1,200 บาท ราคาขายปลีก 1,500 บาท คะแนน 500 พีวี
 
โบรชัวร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร f-2 คลิกที่รูปเพื่อขยายอ่าน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูล สาหร่ายสไปรูไลน่า ผสมปัญจขันธ์
บรรจุ 100 แคปซูล ราคาสมาชิก 1,000 บาท ราคาขายปลีก 1,250 บาท
คะแนน 400 พีวี

เสริมอาหารชนิดแคปซูล ปัญจขันธ์ กลูต้า พลัส บรรจุ 30 แคปซูล
ราคาสมาชิก 1,000 บาท ราคาขายปลีก 1,250 บาท คะแนน 400 พีวี
คลิกที่รูปเพื่อขยายอ่าน

เสริมอาหารชนิดแคปซูล คาวตอง เกรปซีด พลัส บรรจุ 100 แคปซูล
ราคาสมาชิก 1,200 บาท ราคาขายปลีก 1,500 บาท คะแนน 750 พีวี

กาแฟลดพุงตราโอทู 1 กล่อง บรรจุ 10 ซอง ขนาด 15 กรัม
ราคาสมาชิกกล่องละ 200 บาท ราคาขายปลีก 250 บาท คะแนน 100 พีวี
กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผง ผสมแอลคาร์นิทีน และสารสกัดจากปัญจขันธ์ ฯลฯ
สินค้าแนะนำ สินค้าขายดี


สนใจผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม
ติดต่อ นายโอทู โทร.088-425-3367 24 ชม.
หรือเข้าชมที่เว็บไซต์หลักครับ

โปรท่องเที่ยว

 
 
จำหน่าย น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ราคาไม่แพง รับรองคุณภาพ
 "ข้าวสราญรมณ์"
กระปุก ละ 60 แคปซูล จำหน่ายปลีกและส่ง ราคากระปุกละ 380 บาท
ซื้อ  2 กระปุกขึ้นไป จัดส่งฟรีทั่วประเทศ


Otwo Super Premium โอทู ซุปเปอร์พรีเมี่ยม NEW
โอทู ซุปเปอร์พรีเมี่ยม ออร์แกนนิค Otwo Super Premium
สารสกัดอินทรีย์คุณภาพสูง ชนิดเข้มข้น ผลิตจากสารสกัดสมุนไพร ประกอบด้วยสารสกัดฟลาโวนอล ( Flavonol Active)มีฤทธิ์สูงกว่าสารฟลาโวนอยด์ทั่วไป 2-3 เท่า มีคุณสมบัติเสริมสร้างภุมิคุ้มกันพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค



อัตราส่วน วิธีการใช้โอทู ซุปเปอร์พรีเมี่ยม